ดูหนัง ออนไลน์ Infiesto (2023) อินฟิสโต เมืองอันตราย เต็มเรื่อง ดูหนังผ่านเน็ต Infiesto เต็มเรื่อง (2023) อินฟิสโต เมืองอันตราย ในมี.ค. 2020 วันแรกที่มีการประกาศคราวฉุกเฉิน ตำรวจสายลับ 2 คนถูกเรียกตัวไปยังชุมชนเหมืองเล็กๆแห่งหนึ่งบประมาณริเวณที่ราบลุ่มในประเทศอัสตูเรียส ข้างหลังมีคนเจอหญิงสาวที่ล่องหนไปเมื่อยาวนานหลายเดือนก่อน ตอนที่โลกกำลังตกอับแล้วก็เกิดเหตุหดหู่สังกัดผู้คนทั่วทุกสารทิศ ไม่นานตำรวจสอบสวนทั้งคู่คนก็ใส่ใจว่าพลังทารุณที่รุกรามทุกคนอยู่บางครั้งก็อาจจะมิได้มาจากเชื้อไวรัสเพียงอย่างเดียว
เรื่องย่อ ดูหนัง ออนไลน์ Infiesto (2023) อินฟิสโต เมืองอันตราย เต็มเรื่อง
ตัวหนังใช้เหตุล็อกดาวน์โควิดในเมืองเล็กๆที่ชื่อ อินฟิสโต อันเป็นชื่อนี้ด้วย โดยเชื่อมโยงเรื่องราวกับคดีลักพาตัวหญิงสาวหายไปยาวนานหลายเดือนขณะที่โควิดเริ่มระบาด ซึ่งไอเดียพล็อตนี้ถ้ามาตอนโควิดรุนแรงก็บางทีอาจจะถือว่าเป็นไอเดียที่เก๋กับเรื่อง แม้กระนั้นการมาในขณะที่โควิดซาไม่มีการล็อกดาวน์แล้วทั่วทั้งโลก ตัวหนังเลยมองดูเอาท์ตกกระแสไปในทันทีทันใด
แม้ทั้งยังเรื่องจะอุตสาหะเชื่อมโยงชีวิตส่วนตัวของสองตำรวจตัวเอกว่าแต่ว่างงานที่ป่วยหนักโควิด ต้องมาปฏิบัติการเพียงคนเดียว กลับไปอยู่บ้านไปก็พบกับความอ้างว้าง จนกระทั่งพบกับแรงกดดันด้านจิตใจจนถึงทำให้งานสอบปากคำยากลำบากขึ้น แม้กระนั้นดังต่อไปนี้ก็เป็นได้เพียงส่วนเสริมของเรื่องที่เสียเวล่ำเวลาไปเปล่าๆในเรื่องราวหลักตามล่าฆาตกรซะมากกว่า
เรื่องราวส่วนสืบสวนจัดว่าทำเป็นค่อนจะดี Infiesto (2023) มีความระทึกตามแนวการฆ่าเป็นประจำแบบจิตๆเริ่มจากหญิงสาวที่ล่องหนไป 3 เดือนที่ผ่านมาปรากฎตัวขึ้นมาในสภาพร่างกายกับจิตใจย่ำแย่ ให้การไม่ได้ ตัวแสดงนำทั้งคู่ก็เลยจำเป็นต้องเริ่มสอบย้อนกลับไป ก่อนพบเจอกับเพศผู้ลงมือที่พบว่าไม่ได้มีคนเดียว แม้กระนั้นมีกันคนไม่ใช่น้อย ตัวเรื่องมานะพยายามรีบกดดันแข่งกับเวลา
เมื่อมีเส้นตายกล่าวว่าจะมีเหยื่อเพิ่มเติมอีกในไม่กี่วัน ดูหนัง ออนไลน์ Infiesto (2023) อินฟิสโต เมืองอันตราย เต็มเรื่อง พร้อมความฉลาดของผู้ละเมิดกฎหมายที่ดูเหมือนจะซ่อนตัวตนอย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าเพียงพอตอนเฉลยคำตอบเรื่องราวกลับมองดูง่าย และก็มีความไม่สมเหตุผล ตัวบอสก็มองดูไม่รอบคอบพลาดแบบง่ายๆแม้ว่าฉลาดหลักแหลมมาทั้งเรื่อง ทำให้มาตกม้าตายเอาตอนสุดท้ายอินฟิสโต
เมืองอันตรายหนังสอบปากคำการฆ่าที่ใช้เรื่องราวล็อกดาวน์โควิดมาเป็นแบ็คกราวด์เรื่องราวแรงผลักดัน ความลำบากในการดำเนินการ แต่ว่ามาตอนกระแสเอาท์ไปแล้ว เลยมองดูถ้าเช่นนั้นๆแม้ตอนสืบสวนตามล่าฆาตกรจะทำเป็นดี แต่ว่าตอนสุดท้ายกลับมองดูไม่ค่อยสมเหตุผลกับผู้ร้ายที่ฉลาดหลักแหลมมาทั้งเรื่อง แม้กระนั้นก็ถือว่าเป็นหนังที่พอเหมาะพอควรฆ่าเวลาได้ ไม่ถึงกับไม่ดี แค่เพียงตัวเรื่องดูเอาท์หลุดกระแสที่นำโควิดมาใช้แล้วเท่านั้นเองครับ
รีวิวหนัง “Ransomed คู่ระห่ำไถ่ผ่านโลก ดูหนัง ออนไลน์ Infiesto (2023) อินฟิสโต เมืองอันตราย เต็มเรื่อง
ปี 2023 นับว่าเป็นปีที่บรรดาค่ายภาพยนตร์ต่างๆแก่งแย่งกันซื้อลิขสิทธิ์หนังประเทศเกาหลีมาลงโรงฉายในไทยกันอย่างรุนแรง พิจารณาได้กระจ่างเลยว่าหนังประเทศเกาหลีมีเรียงคิวฉายกันแบบอาทิตย์ต่ออาทิตย์ รวมทั้งยิ่งนับวันก็นำเข้ามาฉายแทบพร้อมๆกับฝั่งประเทศเกาหลีแล้ว รวมทั้งเบอร์ปัจจุบันที่จะฉายสุดสัปดาห์นี้ก็คือ “Ransomed คู่ระห่ำไถ่ผ่านโลก” หนังแอคชั่นสุดระทึกผสมขำ จากความสามารถการผลิตของผู้กำกับซีรีส์สุดปัง Kingdom ที่ออกมาเป็นสมการความสนุกสนานที่ออกจะพอดีดี
ansomed คู่ระห่ำไถ่ผ่านโลก ไม่นจุน เป็นเจ้าหน้าที่รัฐสถานที่ทำงานให้กับรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ในตำแหน่งนักการทูต แต่ว่าเขาไม่เป็นผลงานสะดุดตาอะไรเลย แม้ว่าจะเป็นจริงเป็นจังตั้งอกตั้งใจปฏิบัติงานโดยตลอด โดยเหตุนั้นเขาก็เลยตกลงใจเป็นอาสาสมัครไปช่วยนักการทูตประเทศเกาหลีที่ล่องหนไป ด้วยข้อแม้ว่าถ้าถ้าเกิดเขาทำสำเร็จ หัวหน้าจึงควรส่งเขาไปปฏิบัติงานที่สหรัฐฯดังที่เฝ้าฝันตลอดมา
เขาก็เลยเริ่มเดินทางไปยังเลบานอนเพียงคนเดียว ที่ณ เวลานั้นเหตุการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะเหตุว่ามีเหตุการศึกการบ้านการเมืองเกิดขึ้นอยู่ ตรงนั้นเขาได้เจอกับ พันซู โชเฟอร์แท็กซี่รับจ้างที่คนประเทศเกาหลี แต่ว่าสามารถบอกภาษาอาหยอมรับได้ชำนาญ ซ้ำยังรู้จักทางต่างๆในแคว้นอย่างดีเยี่ยม แม้กระนั้นหารู้ไม่ว่านิสัยที่จริงจริงของเขาก็คือมิจฉาชีพนั่นเอง แล้วอย่างนี้ปฏิบัติงานช่วยเหลือนักการทูตจะเสร็จไหม?
ประเด็นนี้ได้ผลงานปัจจุบันของผู้กำกับ “คิมซองฮุน” ที่พวกเราเคยชินกันดีจากซีรีส์ชุด Kingdom ถือได้ว่าเป็นการคัมแบ็กกลับมาทำหนังอีกรอบในรอบ 6 ปีเลย และก็แน่ๆว่าเขายังคงวาดลวดลายในงานของตนออกมาได้อย่างชำนิชำนาญ ส่วนใดส่วนหนึ่งก็จะต้องขอบคุณมากเคมีของการจับคู่ดารานำ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นดาราหนังคู่บารมีของผู้กำกับรายนี้ทั้งมวล ทำให้จังหวะจะโคนต่างๆในหนังประเด็นนี้ออกมาได้ประจวบเหมาะแล้วก็สร้างความเพลิดเพลินได้อย่างดีเยี่ยม
หากว่า Ransomed คู่ระห่ำไถ่ผ่านโลก จะเป็นหนังพล็อตสูตรสำเร็จแบบเดิมๆที่มองเห็นได้ตามหนังประเทศเกาหลีในสมัยข้างหลังๆมานี้ แต่ว่าองค์ประกอบหนังก็ทราบจังหวะดีว่า ผู้ชมอยากอะไรรวมทั้งต้องการมองเห็นอะไร พวกเขาก็เลยใส่วัตถุดิบแบบง่ายๆเข้าแล้วก็ดำเนินการกับปฏิกิริยาของผู้ชมก้าวหน้าตลอดทั้งเรื่อง ถึงนื้อหาเกี่ยวกับประเทศเกาหลีในดินแดนแถบตะวันออกกลางอะไรทำนองนี้ ในตอน 3-4 ปีที่ล่วงเลยไป จะสร้างออกมาเกลื่อนกลาด ไล่มาตั้งแต่ The Point Men หรือ Escape from Magadishu
ก็เลยเป็นต้นเหตุที่ทำให้หนังหัวข้อนี้ที่มาคราวหลัง ขาดความสดใหม่รวมทั้งแปลกใหม่ได้โดยปริยายแม้กระนั้นถึงพล็อตมันจะซ้ำจากจำเจก็ตาม แม้กระนั้นหัวใจสำคัญแล้วก็เป็นส่วนประกอบที่เด่นของหนัง ก็จำเป็นต้องชูให้เคมีของ 2 ผู้แสดงนำฝ่าย ที่พวกเขาสามารถผนึกกำลังรวมร่างพากันประคับประคองหนังหัวข้อนี้ไปแบบสุดทาง ถึงจะยังไม่ใช่ผลงานระดับมาสเตอร์พีชแล้วก็เพอร์เฟ็คที่สุด แม้กระนั้นทั้งคู่ก็นำพลังความเป็นซุปตาร์และก็มือโปรสำหรับในการเป็นผู้แสดงถ่ายทอดออกมาให้ผู้ชมปลดปล่อยหน้าจอยไปกับหนังได้ตลอด 2 ชั่วโมง
พวกเขาทั้งคู่ต่างเคยร่วมงานกับผู้กำกับคิมมาแล้วทั้งหมดทั้งปวง “ฮาจองอู” เคยนำแสดงในหนังเรื่องก่อนของผู้กำกับรายนี้ อย่าง Tunnel เมื่อปี 2016 ในขณะที่ “จูจีฮุน” ก็รู้จักกันดีกับซีรีส์ Kingdom นั่นเอง ถือได้ว่าเป็นหนังที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์แล้วก็เสน่ห์ทางการแสดงของดาราที่ทำออกมาได้ดิบได้ดีจริงๆพวกเขาสมหน้าที่ได้อย่างไหลลื่น เพลินใจ และก็เต็มไปด้วยอินเนอร์ที่ทรงอำนาจ ทั้งๆที่บทหนังก็เกือบจะไม่มีพาวเวอร์อะไรก็แล้วแต่เลยก็ตาม
รีวิวหนัง “Once Upon a Crime กาลครั้งหนึ่งกับคดีปัญหา
เวลาที่เทรนด์การผลิตหนังสไตล์ whodunit ยังคงเวิร์กอยู่ถัดไปในช่วงนี้ ใครๆก็นิยมใส่ความสนุกสนานซ่อนเร้นด้วยปัญหาบันเทิงใจๆกันออกมา ฝั่งประเทศญี่ปุ่นก็ไม่น้อยหน้า ก็ได้ยามจับเอาไว้นิยายแฟนตาซีมาขึ้นหน้าจอ เปลี่ยนมาเป็นหนังแฟนตาซีแนวสอบสวนสืบสวนใน “Once Upon a Crime กาลครั้งหนึ่งกับคดีปัญหา” ที่เป็นการขมวดปมปัญหาลึกลับกับการไขคดีกับโลกเทพนิยายได้อย่างเห่อเหิมสมควรตามสไตล์ความญี่ปุ๊น..ประเทศญี่ปุ่น
Once Upon a Crime กาลครั้งหนึ่งกับคดีปัญหา เล่าราวในโลกเทพนิยายระหว่างที่สินเดอเรลลาได้ร่วมงานสังสรรค์เต้นรำกับเหล่าวงศ์สกุลอันมีเกียรติ ปรากฏว่าคุณกับหนูน้อยหมวกแดงได้เข้าไปเกี่ยวพันกับวังวนปัญหาเข้า ทำให้พวกคุณจำเป็นต้องใช้ไหวพริบสำหรับการอธิบายแจ่มกระจ่างแล้วก็สืบหาเรื่องจริงที่หลบซ่อนอยู่ ก่อนที่จะเสียงระฆังจะดังขึ้น…บอกเวลาเที่ยงคืน
หนังปรับเปลี่ยนผลิตขึ้นมาจากนิยายขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าของ “อาอิโตะ อาโอะยากิ” ที่เคยเผยแพร่ในปี 2020 โดยได้ผู้กำกับมีชื่อเสียง “ยูอิจิ ฟูกุดะ” จากหนัง Gintama มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง และก็ร่วมดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขเขียนบทหนังกับ “”ทัตสึโอะ ติดอยู่มาตะ” ที่พวกเขาเคยร่วมงานร่วมกันมาแล้วจาก Black Night Parade นั่นเอง จำต้องเห็นด้วยว่างานประพันธ์ต้นฉบับของหนังออกจะมีส่วนประกอบที่แข็งแรง แม้ว่าจะเป็นการยำแล้วยำซ้ำ ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาหลายทอดก็ตามแต่
การถือเอาการราวในเทพนิยายมายำรวมทั้งแต่งเป็นจานใหม่ ถือเป็นการยืมเนื้อเรื่องที่เฉลียวฉลาด นำเอาเรื่องที่คนทั่วทั้งโลกรู้จักอย่างดีเยี่ยมแล้ว มาพ่วงใส่กับข้อความสำคัญสอบสวนสืบสวน สืบเสาะหาว่าใครกันแน่เป็นคนทำ แน่ๆว่าเรื่องสไตล์ whodunit เป็นอะไรซึ่งสามารถล่อใจความพึงพอใจให้กับผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าเอามาผูกเรื่องแล้วก็เงื่อนปัญหาได้อย่างน่าดึงดูด รวมทั้งดูเหมือน Once Upon a Crime ก็ถ่ายทอดออกมาใช้ได้อยู่
ถึงแม้ว่างานโปรดักชั่นต่างๆจะเต็มไปด้วยความเป็นญี่ปุ๊น..ประเทศญี่ปุ่นทุกระเบียบปฏิบัตินิ้ว ทั้งยังฉาก อีกทั้งแสงสว่าง ทั้งยังลักษณะท่าทางและรูปแบบการแต่งตัว บ่งชี้ถึงความเป็นงานสร้างฉบับประเทศญี่ปุ่นโดยแท้จริง ที่แน่ๆว่าโปรดักชั่นของประเทศญี่ปุ่นก็ทำออกมาได้เพียงพอถึงแก่นอยู่ ยิ่งได้มาอยู่ในหมวดหนังแฟนตาซี จำเป็นต้องนับว่ากลุ่มผู้ผลิตจัดจ้าและก็มีฝีมือถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างจะประพึงพอใจ
รีวิวหนัง “A Million Miles Away ฝันให้ไกลไปถึงอวกาศ
ถ้าหากวัยเด็กคุณเคยมีเป้าหมายต้องการจะขึ้นไปสู่ห้วงอวกาศ แต่ว่าเดี๋ยวนี้ก็ทำไม่เสร็จ ซ้ำยังอยู่ไกลห่างจากความฝันนั้นมากมายๆจนถึงจำเป็นต้องทอดทิ้งความฝันไปแล้ว ลองเติมเต็มกับหนังจากความจริงที่ไปแตะต้องความฝันได้เสร็จกับ “A Million Miles Away ฝันให้ไกลไปถึงอวกาศ” หนังที่ผลิตขึ้นมาจากความเป็นจริงของตำนานที่มีลมหายใจ จากฝันที่คนใดกันแน่ก็คิดว่าตลกขบขัน แต่ว่าเขากลับเอื้อมคว้ามันไปถึงฝั่งฝน รวมทั้งประวัติศาสตร์ยังจำต้องจารึก
A Million Miles Away ฝันให้ไกลไปถึงอวกาศ เป็นการเผยเรื่องราวชีวิตระดับตำนานของ โฮโซ เฮอร์นันเดซ นักบินอวกาศเชื้อสายภาษาละตินแล้วก็กล่าวภาษาประเทศสเปน ที่ส่งเสริมตนเองด้วยฝันที่ไกลยิ่งว่าที่ตั้งของโลก จากลูกเกษตรกรปกติที่ย้ายถิ่นมาจากประเทศเม็กซิโก เปลี่ยนมาเป็นข้าราชการวิศวกรห้องปฏิบัติประจำหน่วยงานองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ(สหรัฐอเมริกา) และก็เป็นนักบินอวกาศได้เสร็จ เพียงความทะยานอยากและไม่หยุดที่จะเพิ่มเติมความฝันของเขาให้แปลงเป็นข้อเท็จจริงให้ได้ในวันใดวันหนึ่ง
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่านี่เป็นหนังที่สร้างจากความจริง ufawin666 โดยดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขผลิตขึ้นจากพ็อกเก็ตบุ้คขายดิบขายดีของ โฮโซ เฮอร์นันเดซ นักบินอวกาศผู้เป็นตำนานขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ(สหรัฐอเมริกา) ซึ่งหนังประเด็นนี้ถือเป็นการผนึกกำลังสร้างของกลุ่มผู้ผลิตเชื้อสายภาษาละตินอย่างภูมิใจ นำกลุ่มโดย “อเลฮานดรา มาร์เกซ อเบลลา” ผู้กำกับหญิงไฟแรงที่เคยสั่งสมประสบการณ์จากการผลิตหนังแล้วก็เขียนบทมาอยู่หลายปีล่วงมาแล้ว ผลงานเด่นๆก็เคยดูแลซีรีส์ Narcos: Mexico นั่นเอง
โดยในคราวนี้คุณยังร่วมกลุ่มช่วยเขียนบทหนังกับ “เฮอร์นัน พบเมเนซ” รวมทั้ง “”เบ็ตติเตียนที่นา กิโลอิส” ที่ทำให้หนังหัวข้อนี้เข้มข้นด้วยเลือดและก็ความเป็นภาษาละตินแบบจัดจ้าทีเดียว ถึงแม้ส่วนประกอบต่างๆมันช่างพอเหมาะพอเจาะเป็นไปตามสูตรสำเร็จของหนังดรามาอัตประวัติคนมีชื่อเสียงที่เคยสร้างกันมามาก หนังมิได้มีลูกเล่นอะไรให้เชื้อเชิญละลานตา แม้กระนั้นปลดปล่อยผู้ชมดูดซับกับทางชีวิตสำหรับเพื่อการพิสูจน์ตนเองไปสู่ทางฝันของโฮโซได้อย่างทรงประสิทธิภาพ
A Million Miles Away อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีกระบวนการเล่าที่ออกจะจืดชืดไปสักนิดสักหน่อย หนังลำดับเรื่องราวตามไทม์ไลน์ไปเรื่อยโดยที่มิได้มีจุดพีคอะไรเยอะแค่ไหน แต่ว่าก็สามารถเก็บเนื้อหาในตอนช่วง และก็วัฒนธรรมชาวภาษาละตินเอาไว้ได้อย่างจัดจ้าดีตลอดดีตลอดทั้งเรื่อง แน่ๆว่าหัวข้อการเหยียดเชื้อชาติจำต้องถุกใส่เข้ามาในหนังหัวข้อนี้แบบหลีกเลี่ยงมิได้อยู่แล้ว แม้กระนั้นอย่างต่ำๆหนังก็มิได้ย้ำอะไรมากมายนั้น ด้วยเหตุว่ามันก็เปลี่ยนเป็นจุดที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ในหนังเยอะแค่ไหนแล้ว
รีวิวหนัง “The Exorcist: Believer หมอปราบผีเอ็กซอร์ซิสต์
แล้วก็นี่ก็คืออีกหนึ่งตำนานสยองขวัญของฮอลลิวูด ที่ยังคงมีความอุตสาหะที่ปัดฝุ่นรวมทั้งจับขึ้นมาจากกล่องเก่าๆมาหารับประทานใหม่อยู่เรื่อยกลับมาในคราวนี้กับ “The Exorcist: Believer หมอปราบผีเอ็กซอร์ซิสต์: ผู้เชื่อถือ” ที่ยังมากับเส้นเรื่องของภูติผีอยู่ร่างมนุษย์ ที่ยังคงอิงใจความสำคัญความศรัทธาแล้วก็แรงเลื่อมใสในศาสนาอีกเหมือนปกติ เพียงแต่ว่ามันจะยังเวิร์กอยู่กับโลกในตอนสมัยปี 2020s หรือไม่?
The Exorcist: Believer หมอปราบผีเอ็กซอร์ซิสต์: ผู้เชื่อถือ เล่าการของ แอนเจลา กับ แคคุณลีน เด็กผู้หญิงวัย 12 ที่ล่องหนไปในป่าข้างหลังสถานที่เรียน ก่อนที่จะแสดงตัวกลับมาอีกรอบในอีก 3 วันให้ข้างหลัง แต่ว่าพวกเขากลับปราศจากความทรงจำอะไรก็ตามเกี่ยวกับตอนที่ล่องหนไป ก่อนที่จะเริ่มมีความประพฤติแปลกๆที่แสดงออกมาต่อครอบครัว ทำให้พวกเขามั่นใจว่าพวกคุณถูกซาตานอยู่ จนกระทั่งจะต้องควรพาผู้ชำนาญสำหรับในการขับไสขจัดปัดเป่าในตำนาน
สำหรับในภาคนี้ได้ผู้กำกับสายสยดสยองที่สมัย อย่าง “เดวิด กอร์ดอน กรีน” มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง กับร่วมเขียนบทหนังด้วย เขาเพิ่งบรรลุเป้าหมายปังสุดๆจากหนังชุด Halloween สามภาคปัจจุบัน แล้วก็นี่ถือได้ว่าเป็นการตั้งความหวังใหม่ของแฟรนไชส์นี้ที่ต้องการจะปลุกปั้นสร้างออกมาให้ปังอีกประเด็น ก็แค่โชคร้าย ที่การกลับมาคราวนี้ของหมอปราบผีเอ็กซอร์ซิสต์ บางทีอาจจะยังไม่ถึงขนาด..ดุเดือดเลือดพล่านเยอะแค่ไหน
เปลี่ยนไปเป็นว่า The Exorcist: Believer ออกจะเพลย์เซฟในตนเองไปสักนิดสักหน่อย จะหลอนก็หลอนไม่สุด จะชั่วร้ายก็ชั่วร้ายแบบไม่ถึง จะดรามาก็ออกจะจืดจาง ทำให้ส่วนประกอบหลายๆอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินตามเส้นเรื่องของหนังในภาคนี้ออกจะน้อยลง ไม่หนักแน่นสักเท่าไหร่ เป็นหนังสยองขวัญที่สัมผัสไม่ถึงต่อมอารมณ์อะไรก็ตามได้อย่างน่าผิดหวัง
บทหนัง The Exorcist: Believer ค่อนข้างจะรสมือเบาไปหน่อย ท่ามกลางกระแสหนังสยองขวัญยุคนี้ที่ขยันยังอย่างอื้ออึง ใครๆก็จะต้องแงะเอาจุดแข็งจุดแข็งของตนเองออกมาโชว์ แต่ว่าปรากฏว่าการกลับมาคราวนี้ของหมอปราบผีออกจะไม่มีเสน่ห์ ถึงจะมีแรงดึงดูด แต่ไม่สามารถที่จะสร้างความสัมพันธ์ให้ผู้ชมรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเค้าเรื่อง บทหนังออกจะเต็มไปด้วยจุดแหว่งในหลายๆจุด รวมทั้งขาดความซาบซึ้งใจไป
เวลาที่โทนความหลอนของหนังก็ค่อนข้างจะรสจืดจาง เล่าไปแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป กว่าจะเกริ่นปูเรื่องรวมทั้งเข้าประเด็นก็ขว้างไป 30 นาทีแล้ว หากว่าหนังจะประเดิมของเรื่องมาได้ค่อนข้างจะน่าดึงดูด ด้วยการจับใส่สถานะการณ์หายนะครั้งใหญ่สุดยอดเข้ามาโยงใยด้วย แต่แปลงเป็นว่าไม่อาจจะเชื่อมต่ออะไรกับภาพรวมได้ทั้งปวง
นอกจากนั้น The Exorcist: Believer ยังบากบั่นอย่างมาก บากบั่นที่จะเซอร์วิสแฟนหนังเริ่มแรก ด้วยการจับเอาผู้แสดงเก่าๆใส่เข้ามาด้วย แม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นว่าใส่เข้ามาแบบซุกซนๆได้ตำนาน “เอลเลน เบอร์สตีน” กลับมาเป็น คริส แม็กนีล อีกรอบ แต่ใส่เข้ามาอย่างงั้นๆราวกับสตูดิโอหนังต้องการที่จะให้ใส่เข้ามาก็ใส่ โดยที่ไม่นึกถึงความเป็นเหตุเป็นผลอะไรสักเท่าไหร่นัก