หนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร แนะนำ หนังมาแรง
หนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร แนะนำ หนังมาแรง เหตุการณ์เริ่มจากไบโอซินที่ใช้ข้ออ้างสำหรับในการทำเพื่อที่จะสังคมสร้างอาณาจักรสัตว์โลกล้านปีขึ้นมาเพื่อจะการทดพยายามและทำเงิน หมวดหมู่เขาคิดค้นหาและสร้างตั๊กแตนยักษ์โบราณที่เป็นต้นเหตุขาดหายนะในภาคนี้ขึ้น ไบโอซินควรจะเป็นตัวไมซี ล็อควู๊ด และ ลูกของบลู แร็พเตอร์ตัวนิดหน่อยที่ไมซีตั้งชื่อเรื่องให้มันว่าเบต้าเพื่อจะมาเป็นตัวทดทดลองหลังจากที่บลูสามารถมีลูกเองได้โดยไม่ควรต้องอาศัยการผสมพันธ์ุและไมซีเป็นเด็กที่มีต้นเหตุที่เกิดจากการทดทดสอบไม่ไม่เหมือนกับบลู
ภายหลังจากไมซีและเบต้าถูกไบโอซินจับตัวไป โอเว่น และแคลร์จึงออกตามหาทั้งสอง เวลาที่หมู่ของดร.แกรนต์นั้นตามหาจริงๆแล้วเรื่องตั๊กแตนยักษ์ที่อาละวาดทำลายพืชผลการเกษตรครั้งใหญ่บนโลกจนทุกท่านได้ไปพบเจอกันที่ไบโอซิน Jurassic World 2022 : เล่าเหตุการณ์เรื่องราวอีก 4 ปีต่อจากนั้น ภายหลังจากเกาะไดโนเสาร์ “อิสลาร์ นูบลาร์” ถูกสร้างลายลง เหตุการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีสวนรื้นเริงไดโนเสาร์ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างบันเทิงใจอีกต่อจากนี้ไป แต่เหล่าไดโนเสาร์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้เริ่มต้นออกเดินทางไปล่ามนุษย์ทั่วทั้งโลก
ความอันตรายมาเยือนเผ่าพันธุ์มนุษย์ ความสมดุลถูกทำลายลง มนุษย์จะกลับกลายเป็นผู้ถูกล่าตลอดไป หรือจะสามารถปรับตัวเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตจากสมัยดึกดำบรรพ์ได้ ในภาคนี้จะได้ปรากฏไดโนเสาร์หลากหลายพันธุ์ที่ยกฐานะความอันตรายเพิ่มอีกขึ้น รวมถึงยังสะท้อนให้เห็นความคิดเห็นแก่ตัวของคนเรา ที่ไม่รักษาธรรมชาติ หนังจูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร จนทำให้ระบบนิเวศและความสมดุลเวลาธรรมชาติพังทลายลง
ในหนังมีหลากหลายฉากที่ซ่อนความเป็นจูราสสิคพาร์คเอาไว้คาดว่าหากท่านไหนเป็นแฟนหนังเฟรนไชน์นี้ด้วยเช่นกันคงจะทราบในทันทีที่ได้เห็น และแน่นอนว่าถ้าท่านที่ไม่เคยเป็นแฟนหนังเรื่องนี้ได้ชมก็จะรู้สึกบันเทิงใจร่วมไปกับมันได้อย่างแน่ๆ มันเหมือนเป็นสิ่งคลุกเคล้ากันเล็ก ๆ ที่ล้อฉากเด่นๆ ในจูราสสิค พาร์ก ดังเช่นว่าฉากที่ดร.แกรนต์ และ ดร.เอียนได้ช่วยทิมและเล็กซ์หลานของจอห์น แฮมมอนในภาคแรกเอาไว้และต้องประจันหน้ากับไทแรนโนซอรัสกันแบบจังๆ
ในภาคนี้พวกเขาก็ต้องเจอกับไทแรนโนซอรัสแบบซึ่งหน้าด้วยเช่นกันในบรรยากาศที่ล้อออกมาจากฉากในหนังภาคแรกแต่รสชาติความเบิกบานและลุ้นระทึกก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย ในสถานะแฟนหนังถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในหลากหลาย ฉากที่น่าจับจิตและดึงความจำในปฐมวัยกลับมาได้อย่างดีเยี่ยม
อนาคตของโลกไดโนเสาร์
อันที่จริงในขณะนี้อาจจะเร็วเกินไปที่จะเอ๋ยถึงอนาคตของแฟรนไชส์ Jurassic แต่ แฟรงค์ มาร์แชล ได้โปรดกรุณาิวเซอร์ของรูปยนตร์ชุดนี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับ Collider เว็บไซต์ข่าวสารวงการบันเทิง เมื่อเดือน เดือนพฤษภาคม 2563 ไว้ว่า Jurassic World: Dominion จะเป็นจุดเริ่มแรกของยุคใหม่ ที่มนุษย์จึงควรปรับตัวเพื่ออยู่อาศัยกับเหล่าไดโนเสาร์ให้ได้ และเมื่อเดือน เดือนมกราคมก่อนหน้านี้ เขาพูดว่า คงจะจะมีรูปยนตร์ในแฟรนไชส์อีกหลายเรื่อง
แต่เราจำเป็นที่จะต้องนั่งรอดูสถานการณ์ในภายภาคหน้าก่อนว่าจะคืออะไร ช่วงเวลาที่ทั้งนักบ่งชี้และผู้กำกับของรูปยนตร์ไตรภาค “Jurassic World” ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่าง ๆ ว่าอาจจะไม่กลับมาเข้าร่วมงานในภาพยนตร์ภาคถัดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น คอลิน เทรวอร์โรว์ ผู้กำกับของ Jurassic World ทั้ง 3 ภาค ให้สัมภาษณ์ว่า คงจะไม่กลับมามีส่วนเข้าร่วมกับภาพยนตร์ชุดนี้อีก
เนื่องจากเขาใช้ระหว่างอยู่กับมันมาช้านานกว่า 9 ปี นอกจากตำแหน่งผู้ชี้แนะที่จะยังพอมีจังหวะเป็นไปได้ นอกจากนี้นี้ยังเปิดเผยว่ามีอีกหลายๆผู้แสดงในไตรภาคของเขาซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ได้ แม้ว่าการปูเหตุการณ์เพื่อที่จะก่อให้เกิดบทสรุปของภาพยนตร์การดำเนินเรื่องในขณะต้นเนื้อหารูปยนตร์อาจจะเอื่อยหรือเนิบนาบเกินไปเพื่อคนไหนคนไม่ใช่น้อยไปบ้าง จูราสสิคเวิลด์ 3 hd แต่มันก็มิได้ราบเรียบเกินความจำเป็นจนน่าเบื่อเนื่องจากยังมีฉากตื่นเต้นให้พอได้ลุ้นกันตั้งแต่ต้นเรื่องอยู่ประปรายตลอดช่วงเวลา
ถ้าจะให้คะแนนโดยรวมอย่างน้อยในสถานภาพแฟนหนังคนหนึ่งอาจให้ 10 เต็ม 10 แบบไม่หักเนื่องด้วยหนังหัวข้อนี้ยังจบได้ประทับใจและเก็บเนื้อหาหลายแบบได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าให้ประเมินในสถานภาพผู้ดูรูปยนตร์ทั่วๆไปคงจะจะต้องขอหักไว้ 0.5 คะแนนเพื่อไม่ให้คนว่าเราเป็นติ่งเฟรนไชน์จูราสสิคของคุณลุงสปีลเบิร์กผู้ที่ให้กำเนิดภาพยนตร์อันน่าประทับใจประเด็นนี้ที่อยู่ภายในดวงใจมาตลอดมากจนเกินความจำเป็น
รีวิวหนัง JURASSIC WORLD DOMINION ข้อสรุปไตรภาคฉบับงานเลี้ยงรุ่นที่เหมือนกันกับหมดมุกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สมัย 90 มีรูปยนตร์เรื่องหนึ่งที่บรรลุความสำเร็จอย่างงดงามด้วยการหยิบยกนำเอาสัตว์ดึกดำบรรพ์อย่างไดโนเสาร์มาเล่าถึงความสยองขวัญได้อย่างดีเยี่ยมที่สุดนั่นก็คือรูปยนตร์เรื่อง JURASSIC PARK นั่นเอง มันบรรลุความสำเร็จถึงขั้นที่กลายเป็นเยี่ยมในรูปยนตร์ชั้นตำยาวนานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วและจบลงไปอย่างสมบูรณ์เช่นกัน การนำเอาภาพยนตร์ชั้นตำยาวนานมาสานต่อในชื่อ JURASSIC WORLD จึงได้รับความพอใจเป็นอย่างยิ่งในขั้นแรก และมันก็สามารถทำออกมาได้ออกจะดีอย่างยิ่งจริงๆ
เป็นหนังเรื่องเดียวที่เข้าฉายในสัปดาห์นี้ คาดว่าด้วยความที่เป็นหนังแบบฟอร์มใหญ่สุดๆ หนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร บวกกับเป็นภาคที่ออกมาเพื่อจะปิดไตภาคของแฟรนส์ไชส์ Jurassic ไตรภาคลำดับที่สองเลยส่งผลให้หนังเรื่องอื่นจำเป็นต้องหลีกทางให้ แต่เคงริงๆ หนังกลับทำออกมาได้ไม่ค่อยโอเค เพื่อแฟนๆ ของ Jurassic Park และ Jurassic World
รีวิว Jurassic World Dominion จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร หนังภาคต่อที่พอดูได้ และมุ่งเน้นแต่แฟนเซอร์วิส บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากวิชาการสึกส่วนบุคคลของผม ถ้าบกพร่องประการใด บ้างมั๊ยประทับใจผู้ใดจึงควรขอประทานโทษไว้ ณ ที่นี้ เมื่อก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาชมเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า
แต่น่าเสียดายด้วยความที่มันเป็นรูปยนตร์ไตรภาคทำให้ความสดใหม่ของมันมีได้ไม่เท่ากับ JURASSIC PARK ไม่เพียงเท่านั้นในช่วงหลังก็เหมือนกันกับหมดมุกไปอีกด้วยจนทำให้รูปยนตร์ไม่เบิกบานอย่างที่ควรจะเป็น เคยมีครั้งหนึ่งที่ภาพยนตร์ประเด็นนี้ฉายดิ่งกับรูปยนตร์ชื่อเรื่องเหมือนกับอย่างสตาร์วอร์และไม่สามารถที่จะสู้ได้เลยแม้แต่นิดหน่อย มันเลยส่งผลให้หลายท่านเริ่มไม่คาดหวังกับรูปยนตร์ชุดนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าคุณเป็นคนที่พวกเราชมมาโดยตลอดแล้วต้องการรับดูผลสรุปของเหตุการณ์ทั้งปวงในปัจจุบันรูปยนตร์บทสรุปไตรภาคออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นก็คือ JURASSIC WORLD: DOMINION
อีกจุดที่ถือได้ว่าน่าดึงดูดก็คือ บทรูปยนตร์จากความสามารถของเทรวอร์โรว์และ ‘เอมิลี คาร์ไมเคิล’ (Emily Carmichael) ที่เคยร่วมปูทางด้วยการเขียนบทและกำกับหนังสั้นเรื่อง ‘Jurassic World: Battle at Big Rock’ (2019)* มาก่อนแล้ว ก็เลยทำให้มีวัตถุดิบที่เป็นเนื้อหาหลัก ๆ ของหนัง ที่พาดหัวข่าวระหว่างเปิดเรื่องไว้แบบเข้ม ๆ และน่าสนใจ ทั้งการที่ไดโนเสาร์อยู่ร่วมกับธรรมชาติและมนุษย์ ที่ส่งผลต่อโลก ธรรมชาติ และวิถีชีวิตมนุษย์ในโลกยุคออนไลน์ราวกับโควิด-19 ก็มิปาน
ทางด้านตัวละคร ตัวเก่า ๆ ก็กลับมาเซอร์วิสแฟน ๆ ให้พอได้ยิ้มกรุ้มกริ่ม ทั้ง Laura Dern และ Sam Neill รวมถึง Jeff Goldblum ซึ่งทั้งสามไม่ได้กลับมาแบบขอไปที แต่มามีหน้าที่สำคัญในเรื่องหากว่าการมาของหมู่เขาจะชมยัดเยียดไปหน่อยก็ตาม และนี่เหมือนจะเป็นความดีงามเพียงไม่กี่อย่างของหนังประเด็นนี้ ทางด้านผู้แสดงหลักภาคนี้มีความคิดว่าบทมันแบนไม่มีมิติเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะ Chris Pratt จริง ๆ บทไม่มีอะไรเลย
นอกเหนือจากนี้ชูห้านิ้วก็ไม่มีอะไรละ, Bryce Dallas Howard อีกคนเล่นกันชมแบบเฉยมาก แง่มุมความสัมพันธ์อะไรนี่ไม่อินเลยสักนิด ส่วนน้อง Isabella Sermon น่ารักดี แต่เล่นแข็งเกินความจำเป็น และมันจะมีผู้แสดงนึงที่เหมือน Steve Jobs มาก 555 ไม่รู้จงใจถอดแบบมาไหม มุมมองคือเป็นผู้แสดงที่โคตรแบนที่สุดในเรื่องและน่ารำคาญที่สุดในเรื่อง ส่วนอีกตัวละครอย่าง Kayla Watts ที่บ่งบอกโดย DeWanda Wise ก็มิได้โดดเด่นอะไร แต่คาแรคเตอร์ยังกะ Han Solo
Jurassic World Dominion ฉายวันไหน?
สำหรับประเทศไทย Jurassic World Dominion (จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร) หนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร กำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2565 ฯลฯไป Jurassic World Dominion มีความยาวโดยประมาณ 147 นาที ได้รับคะแนนรีวิวบน IMDB ซึ่งเป็นเว็บรวมข้อมูลและการวิจารณ์ภาพยนตร์ อยู่ที่ 6.2 คะแนน
แต่แม้กระนั้น การกลับมาของ Jurassic World Dominion ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นจูราสสิค เวิลด์ เดี๋ยวนี้ ก็น่าจะยังอาจจะเป็นรูปยนตร์ที่แฟนๆ รอคอยเช่นเดิม เพื่อจะไปติดตามดูบทสรุปไตรภาคของเรื่องราวอาณาจักรไดโนเสาร์ไปพร้อมๆ กัน ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ กองถ่ายจึงควรสิ้นสุดถ่ายทำชั่วคอย่างกับ รวมทั้งจำเป็นจะต้องเลื่อนฉาย เนื่องด้วยเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
Jurassic World Dominion (2022) หรือ จูราสสิคเวิลด์ 3 ทวงคืนอาณาจักร เป็นหนังในจักรวาลจูราสสิคที่เริ่มต้นมาจากจูราสสิคพาร์ค ภาคแรกเมื่อแทบจะ 30 ปีก่อน กำกับโดยสตีเวน สปีลเบิร์ก และเวลานี้ถูกส่งถัดจากนั้นให้ โคลิน เทรวอร์โรว์ กำกับอีกรอบภายหลังที่เขาได้กำกับรูปยนตร์เรื่องนี้ในจูราสสิคเวิลด์ ปี 2015
เราจะรีวิวรูปยนตร์ประเด็นนี้ให้รับฟังในฐานะแฟนคลับคนหนึ่งที่รู้สึกชื่นชอบหนังในเฟรนไชน์นี้จนพูดได้เลยว่าเผลอไผล เพราะฉะนั้นภาคนี้ก็เลยเป็นภาคที่คาดหวังและรอคอยอย่างมากที่จะได้แสดงตัวดร.อลัน แกรนต์ (รับบทโดย Sam Neill) กลับมาโลดแล่นในหนังเฟรนไชน์หัวข้อนี้อีกรอบหนึ่งภาคนี้จับเป็นภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ จูราสสิคเวิลด์ โ
ดยในภาคนี้เรื่องราว 4 ปีที่ผ่านมาจากเรื่องราวในภาคก่อน ที่ไดโนเสาร์ได้หลุดออกไปจากเกาะ และได้มาอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์ เปิดเรื่องมาจะให้พวกเราได้แสดงตัวข้อขัดข้องของการอยู่ด้วยกันด้วยเหตุว่าไดโนเสาร์บางสายพันธ์นั้นดุร้าย และโจมตีมนุษย์ ทำให้มีมนุษย์ถูกไดโนเสาร์สังหารอยู่หลายครั้ง ในด้านของ โอเว่น (คริส แพรตต์), แคลร์ (ไบรซ์ ดัลลัส) และ ไมซี่ ล็อกวู้ด (อิซาเบลลา เซอร์มอน) เด็กสาวจากภาคที่แล้ว ซึ่งเธอถูกผลิตขึ้นมาจากวิทยาศาสตร์
ในตอนค่ำหนึ่งที่พระจันทร์เป็นสีเลือด กองกำลังอันทรงพลังได้ต้อนพวกท่านไปยังสถานที่เรียนที่ความดีและความชั่ว ซึ่งเรื่องราวแท้จริงจริงของเทพนิยายสุดยิ่งใหญ่ทุกเรื่องเริ่มนี้ แต่มีอะไรบางอย่างไม่ดีเหมือนปกติตั้งแต่เริ่มเลย หมายถึงการที่โซฟีถูกพาไปเข้าโรงเรียนที่ความชั่วที่มี เลดี้เลสโซ ผู้เปี่ยมเสน่ห์รวมทั้งช่างถากถางเป็นผู้ดูแล ส่วนอกาธาได้เข้าไปอยู่ในสถานที่เรียนที่ความดีงาม ซึ่งมีศ.จ.โดวีย์ ผู้ใจดีและแจ่มใสดูแล การควรต้องมาร่วมชั้นเรียนกับลูกหลานของแม่มดร้าย, กัปตันฮุก หรือ ลูกชายผู้ห้าวหาญของกษัตริย์อาคุณร์ ก็ซนแล้ว
The School for Good and Evil เล่าราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านกาวาลดอน สองเพื่อนซี้ที่มีอิริยาบถสุดผิดแผกแตกต่างอย่าง โซฟี และ อกาธา มีมิตรภาพสนิทแน่นในแบบที่ไม่น่าเป็นไปได้ โซฟี ช่างเย็บผ้าผมทอง วาดฝันที่จะหนีจากชีวิตที่น่าเบื่อเพื่อไปเป็นเจ้าฟ้าหญิง ส่วนอกาธาซึ่งเป็นคนมีบุคลิกสวยประหารแถมยังมีแม่ที่ไม่ธรรมดาอาจเติบโตจนกระทั่งเปลี่ยนแปลงมาเป็นแม่มดตัวจริงได้
การแสดงออกและก็มุมมองความรู้สึกนึกคิดของแต่ละนักแสดงทำให้เราได้มีข้อคิดเห็นว่าแต่ละคนมีแนวทางจัดแจงกับความเจ็บไข้ได้ป่วยของตัวเองผิดแผกแตกต่าง บางคนอาจเพียงทำใจเห็นด้วยแล้วอยู่กับมัน บางคนอารมณ์บูดอารมณ์เสียเพื่อคุ้มครองภายในที่เปราะบาง หรือบางคนอาจไม่ทิ้งความคาดหวังแล้วหลังจากนั้นก็มองหาหนทางใหม่ๆตลอดเวลา ไม่ได้มีความแตกต่างกับมนุษย์เราที่มีแนวทางจัดแจงกับความกลัว ความกลัดกลุ้ม หรือความเจ็บไข้ได้ป่วยแตกต่างกันออกไป
เล่าเพียงนี้จัดว่าไม่มากจนเกินไป เนื่องด้วยหนังมีอะไรมากกว่านี้อีกเยอะมาก ความเก่งของผู้กำกับพัคชานอุค เป็นการผสมโทนของหนังหลายแบบเข้าด้วยกันอย่างกระชุ่มกระชวย ซีนหนึ่งเป็นหนังตำรวจเป็นจริงเป็นจัง อีกซีนเป็นหนังโรแมนติก ในตอนที่ความลับและก็ปัญหาเบาๆถูกเผยออกมา ไม่แปลกที่ผู้ชมจะคนึงถึงหนังของอัลเฟรด ฮิทช์คอก ผู้กำกับหนังเขย่าขวัญคลาสสิกที่ยังคงเป็นไอดอลให้นักทำหนัง (และนักวิพากษ์วิจารณ์) ได้ยืมชื่อและอิทธิพลมาอ้างถึงอยู่ตลอด
ทั้งยังเรื่องหญิงสาวกับอดีตสมัยอันไม่ชัดแจ้ง การเปรียบเทียบความระทึกใจของการฆ่ากับการตกหลุมรัก แถมพ่วงไปอีกว่าในเรื่องขณะนี้ หนังดันเบาๆเปลี่ยนร่างเป็นหนังรักรันทดแบบฮอลลีวูดอดีตกาลไปโน่นอีกต่อ เบลีย์ยังคงใช้ประสบการณ์ที่ผ่านร้อนหนาวมาหลายชาติโลกสำหรับเพื่อการเป็นสะพานเชื่อมความเกี่ยวพันให้กับดาราหนังมนุษย์คนอื่นๆถึงจะจำแลงกายสุนัขไปเรื่อยๆแม้กระนั้นลึกๆเบลีย์ก็ยังเป็นสุนัขที่เปี่ยมไปด้วยความรักรวมทั้งเจตนาดีตามเดิม
คำบอกเล่าก่อนเริ่มสมาคมในแต่ละคืน เปรียบเสมือนพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่เด็กอีกทั้ง 8 มีด้วยกัน สโมสรสยองขวัญที่นี้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ขณะใดไม่มีผู้ใดรู้ สิ่งที่รู้แน่เป็นข้อตกลงที่พวกเขาทำร่วมกัน ผู้ใดตายก่อนคนนั้นต้องทำทุกทางเพื่อกลับมาบอกคนที่เหลือให้ได้ว่าโลกหลังความตายเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าเท่าที่ผ่านมาจะยังไม่เคยมีบุคคลที่ตายไปกลับมา ถึงแม้ว่านี่ก็คือสิ่งที่พวกเขาถือมั่นร่วมกัน
แต่จากคำบอกเล่าของอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน มีเพียงการได้ประทับจูบจากรักจริงเท่านั้นเองที่จะแปลงกฎระเบียบและส่งนักเรียนผู้หญิงแต่ละคนไปยังโรงเรียนที่ถูกตรงตามโชคชะตาของแต่ละคนได้ แม้กระนั้นเมื่อบุคคลผู้มืดมิดและก็อันตราย ซึ่งมีความเชื่อมโยงลึกลับอะไรบางอย่างกับโซฟีแสดงตัวขึ้นอีกครั้งแล้วก็ขู่ว่าจะทำลายโรงเรียนและโลกอีกทั้งใบให้หมด ทางเดียวที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้งก็คือการฆ่าจริงในเทพนิยายนี้ให้รอดก่อน
หนังหัวข้อนี้ดัดแปลงแก้ไขมาจากหนังสือชุดเรื่องดังของ “โซแมน ไชนานี” ที่ศีรษะข้อนี้เป็นเพียงแค่เล่มแรกเท่านั้นเอง แต่ถือว่าเป็นการออกสตาร์ทที่ชอบใจ รวมถึงดูเหมือนกับว่าจะมีความสามารถเพียงพอที่จะกลายเป็นหนังแฟนตาซีชุดใหม่ตกแต่งวงการหนัง แม้หนังอาจจะยังไกลห่างความเป็น Harry Potter หรือ The Lord of the Rings ค่อนจะมากไม่น้อยเลยทีเดียวก็ตาม แม้กระนั้นหนังก็มีความเชื่อมั่นในตนเองน่าค้นหาในตัวเอง
รีวิว Faces of Anne
แม้ว่าผลงานการควบคุมหนังเรื่องตอนนี้อย่าง ‘ที่ตรงนั้น มีฉันไหม (Where We Belong)’ (2562) จะเว้นตอนมานานแทบจะๆจะ 4 ปีได้แล้ว แม้กระนั้นชื่อของพี่คงเดช จาตุรันต์รัศมี เรียกว่าไม่ได้หายไปไหนไกลนะครับ ถ้าหากใครจำกันได้ เพราะพี่บางทีอาจอำนาจนี่แหละที่เป็นคนเขียบทร่วมให้กับซีรีส์สุดแรงฉาวโฉ่ ‘เด็กใหม่’ ทั้งยังซีซัน 1 (2561) แล้วก็ซีซัน 2 (2564) จนกระทั่งมาปีนี้ พี่น่าจะอำนาจเลยได้กลับมาอีกครั้งใน ‘Faces of Anne’ หรือในชื่อไทยสั้นๆว่า ‘แอน’
ความน่าดึงดูดใจอยู่ที่โอกาสนี้เป็นการดูแลร่วมครั้งแรกของพี่บางทีอาจอำนาจ กับ ราสิเกติ์ สุขกาล ที่เคยดำเนินการกับหนังของบางทีอาจเดชะ ในฐานะผู้กำกับศิลปให้กับหนังของพี่น่าจะเดชะหลายๆเรื่องทั้ง ‘แต่เพียงผู้เดียว’ (2554),’Snap แค่เพียง…ได้คิดถึง’ (2558), ‘ที่ตรงนั้น มีฉันไหม (Where We Belong)’ (2562) แล้วก็ทำหน้าที่วางแบบงานสร้างให้กับ ‘Mary is happy, Mary is happy’ (2556) ที่การันตีความรู้ความเข้าใจด้วยรางวัลสุพรรณหงส์ สาขาวางแบบงานสร้างเลิศ
ตั้งใจจริงๆเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้มีอยู่หลายองค์ประกอบมากไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจับใจความสำคัญความดี-ความชั่วจับมาคอนทราสกันในแบบสถานที่เรียนสอนเวทย์ ทั้งยังจับเอาความเกี่ยวเนื่องระหว่างมิตรภาพสองขั้วมาผสมโรงกันได้อย่างมีจังหวะ ซ้ำยังมีการโยงเรื่องราวเทพนิยายที่คุ้นชินมาตกแต่งใส่เป็นอรรถรสและก็สีสันให้โครงเรื่องได้อย่างเพลิดเพลินใจ
นี่เป็นการหันมาถือจับสร้างหนังแฟนตาซีฟอร์มใหญ่ตอนแรกของผู้กำกับ “พอล ฟีก” เขาที่มีประสบการณ์แล้วก็การสำเร็จจากหนังสายฮามาเป็นส่วนมาก แม้กระนั้นเรื่องนี้เขามารับหน้านาท้องนาประการหน้าที่อย่างเต็มกำลัง อีกทั้งร่วมเขียนบทหนังและก็อำนวยการสร้างด้วยตัวเอง รวมทั้งโน่นทำให้เราได้เห็นอีกมุมและวิสัยทัศน์ใหม่ๆของเขา ว่าเขาก็สามารถประหลาดเดิมๆของตัวเองออกไปได้อีกทางแบบเดียวกัน
สำหรับผู้เขียน หนังของพัคชานอุค มองดูสนุกสนานทุกเรื่อง ถึงแม้ความพยายามสับขาหลอก ตีฟองให้เรื่องซับซ้อนและก็หักมุม อาจจะเกินความพอดีไปบ้าง แม้ว่า Decision to Leave ดูกลมกล่อมละมุนละไมและก็น่ากล่าวสรรเสริญ บางครั้งก็อาจจะด้วยเนื่องจากว่าเสน่ห์ของนักแสดงทั้งคู่ โดยเฉพาะถังเหว่ยในบทโซเร เหมือนกันกับหนังสายดีๆเรื่องอื่นๆการ “สืบสาวราวเรื่อง” ในที่นี้ไม่ใช่เพียงแค่สืบคดีหรือค้นหาข้อสรุปของเหตุ
แต่เป็นการ “สืบ” เข้าไปด้านในจิตใจเพื่อหาแรงกระตุ้นของการกระทำของผู้แสดง ทำไมโซเรถึงย้ายมาประเทศเกาหลี เพราะเหตุใดคุณถึงแต่งงาน เพราะอะไรสามีคุณก็เลย (ดูอย่างกับว่าฆ่าตัวตาย) และเพราะเหตุใดสายของเราก็เลยเผลอไผลหญิงม่ายสาวลึกลับคนนี้ ปัญหาบางปัญหาไม่มีคำตอบ ถึงแม้ว่าการถามมันทำให้หนังมีความลึกล้ำ แล้วก็ทำให้ช่วงสุดท้ายของ Decision to Leave เป็นการขมวดจบที่น่าจำเป็นมากอย่างยิ่ง
แม้ว่า The School for Good and Evil จะเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จเดิมๆของหนังแฟนตาซีอะไรทำนองนี้ หนังอาจจะมีความหมองในแบบ Harry Potter แม้ว่าหนังไม่ได้เสนอให้รู้สึกทะมึนออกมาอย่างนั้น เพราะว่าหนังก็มีความคอนทราสในตัวเองอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เส้นเรื่องแล้วก็โครงเรื่องค่อนจะฝันลมๆแล้งๆและเกินจริง แต่โดยภาพรวมนั้นก็จัดว่ายังประถือครองให้หนังเพลินใจได้อยู่
คุณเคยแบบ รู้ตัวว่าเพื่อนพ้องก็ชอบใจเรา แล้วเราก็ชื่นชอบมิตรสหาย แม้กระนั้นซนไม่กล้าพูดป่ะ ใช่จ้ะ เรื่องราวของหนังเรื่องนี้เป็นแบบที่แอดบอกมาข้างต้นเลยนางเอกกับผู้แสดงนำชายเนี่ยเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่จำความได้เลย เป็นโตมาด้วยกัน แล้วลึกๆเนี่ย แอดว่าทั้งคู่ก็มีความรู้ความเข้าใจตัวล่ะว่าชอบกัน แต่เลือกที่จะไม่บอกเพิกเฉยนิ่ง ปล่อยให้เวลามันผ่านไป ปล่อยให้มันมีคนอื่นเข้ามาเป็นตัวแปร
ทำให้ความเกี่ยวข้องทั้งคู่เปลี่ยน ห่างกันเยอะขึ้นพลาดกันในหลายๆครั้ง แต่ก็อย่างว่า ถ้าเกิดคนมันจะใช่ต่อให้ห่างกันแค่ไหน สุดท้ายก็จำเป็นที่จะต้องวนมาบรรสิ้นสุดกัน เป็นหนังที่แอดดูแล้วอึดอัดทั้งเรื่อง แม้ว่าพอเพียงมาตอนสุดท้ายก็ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย ไปดูเหอะ แล้วจะเข้าดวงใจชีวิตความรักในความเป็นจริงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆว่าเราไม่ได้จะสมหวังในความรัก ในช่วงอายุเพียงวัยรุ่นเท่านั้นเอง ไม่แน่เราอาจจะจบกับคนที่เรารักช่วงเวลาที่แก่แล้วก็ได้นะ
ระหว่างทางหนังจะเบาๆพาผู้ชมเติบโตไปพร้อมๆกับซีเจ รวมถึงศิลปินอื่นๆที่เผยให้แลเห็นความรักอันบริสุทธิ์ของเบลีย์ที่มีต่ออีธาน และครอบครัวของเขาแบบที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้ว่าผู้คนแล้วก็โลกจะเปลี่ยนไปมากเท่าไร ซึ่งแปลงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เราคลั่งไคล้ในความซื่อสัตย์ของเบลีย์แบบหมดหัวใจ
แต่ในขณะเดียวกัน การที่มีปัญหาต่างๆทำให้เบลีย์จึงควรวนไปเกิดเป็นสุนัขตัวอื่น แล้วก็ได้เจอผู้ครอบครองคนใหม่อยู่บ่อยบางครั้งก็ทำให้เราแอบอกน้อยใจแทนผู้ครอบครองคนใหม่อยู่เหมือนกัน เพราะเหตุว่าไม่ว่าพวกเขาจะรักแล้วก็ตั้งมั่นเบลีย์เยอะแยะมากแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถทำให้เบลีย์รักพวกเขาได้เหมือนกับที่เบลีย์รักอีธานได้เลย
Bring It On: Cheer or Die
ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ตลกวัยรุ่นในยุคปี 2000 ที่จัดได้ว่าดัง แล้วก็ยังได้รับการกล่าวถึงมากมายระทั่งในตอนนี้ เราบางครั้งก็อาจจะกล่าวได้ว่ามันเป็นหนังเกี่ยวกับเชียร์ลีดเดอร์ที่มีการชิงชัยเต้นกันอย่างจริงจังเกิดเหตุแรกๆจนถึงหนังมีภาคต่อตามออกมาบ่อยในฐานะหนังโฮมวิดีโอ แต่การกลับมาโอกาสนี้มันจะแปลงเป็นหนังไล่เชือด!
ทั้งไฮไลต์ที่ช่วยเลื่อนฐานะตัวหนังให้ได้มากๆก็คือกรุ๊ปศิลปิน ที่น่าประหลาดไม่น้อยที่หนังเรื่องนี้ได้นักแสดงเบอร์ใหญ่หลายคนเดินตบเท้าร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น “ชาร์ลิซ เทอรอน”, “เคอล้น วอชิงตัน”, “ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น” หรือ “มิเชลล์ โหย่ว” ต่างเป็นซุปตาร์ที่มาเพื่อเล่นเบอร์ใหญ่ แต่ยังไม่ได้เกินเบอร์ มอบการแสดงที่ใหญ่กว่าปกติของตนเองนิดหน่อย แม้กระนั้นมันกลายเป็นสีสันของเรื่องไป
คนจำนวนไม่น้อยอาจจะมุ่งมาดว่า ‘The Midnight Club’ จะมีสไตล์คล้ายกับ ‘The Creepshow’ แม้กระนั้นเอาเข้าจริงแล้วไม่ใช่เลย ด้วยเหตุว่าสิ่งที่สัมผัสได้ในซีรีส์ประเด็นนี้เป็นกลิ่นที่มองดูลึกลับของสถานที่ดูแลไบรท์คลิฟท์ สมาพันธ์โบราณ ปัญหาที่ชวนสงสัย ส่วนเรื่องเล่าที่เด็กๆเปลี่ยนกันมาเล่านั้นมีนาทุ่งนาประการแนว ทั้งยังซักถาม ลึกลับ ไซไฟ แฟนตาซี คนไหนกันชื่นชอบเรื่องสั้นสไตล์นิยายสยองขวัญแบบตะวันตกที่ลึกลับบางครั้งก็หักมุมก็อาจถูกใจ
ส่วนคนที่หวังมาเสพความหลอน ความน่ากลัว อะไรที่เป็นผีแบบเนื้อๆก็อาจไม่ตอบปัญหาเท่าไร นอกจากจังหวะจัมป์แสกกลางร์ที่ใส่มาแบบมากไม่น้อยเลยทีเดียวในตอนแรก มากมายจนกระทั่งดูเหมือนกับว่ากระแหนะกระแหน ซีนนี้คนใดกันแน่ถูกอกถูกใจก็อาจขำๆแล้วต้องใจไปเลย ส่วนคนเกลียดชังอาจมีหงุดหงิดรำคาญได้เช่นเดียวกัน (แน่นอนว่าคนไหนกันที่ขลาด ไม่ถูกกับเสียงดนตรีดังๆแล้วหลังจากนั้นก็จัมป์แสกกลางร์ก็ขอติด Warning Trigger เตือนไว้ให้นี้เลย)
หนังหัวข้อนี้แอดชอบใจ เป็นหนังแอบรัก ที่ได้นางเอกสุดหรูของเรามาเล่น มันเป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวความรักของวัยรุ่นนั่นแหละแม้ว่าไม่ได้พูดถึงเพียงความรักอย่างเดียวนะ หนังอาจจะเสนอในมุมมองที่ ผู้แสดงนำชายแอบรักนางเอกที่เป็นสาวข้างบ้านแม้ว่ามันมีความเป็นเพื่อนแทรกสอดด้วยกันอยู่รวมทั้งการใช้ชีวิตที่จะทดสอบกล้าออกนอกกรอบที่ถูกขีดไว้ ไว้ที่ถูกตีไว้ผู้ที่ทำล้าทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อสิ่งที่เราเองต้องการน่ะ ควรต้องทดลองดูนะ สำหรับคนที่กำลังหาทางในชีวิตตนเอง หรืองงอยู่ แอดอยากที่จะให้ดูจริงๆ
เธอถูกหมายหัวและมีคนต้องการหยิบเธอไปทดทดลอง ทำให้หมวดหมู่เขาทั้ง 3 คน จะต้องหนีไปอาศัยกันอยู่ภายในป่าที่ไกลห่าง จนมาวันหนึ่ง ไมซี่ ได้ถูกฝูงคนปัญหาหยิบตัวไป ส่งผลให้ โอเว่น และแคลร์ ที่รักไมซี่เหมือนลูกสาวแท้ๆ ควรต้องออกสัญจรไปยังศูนย์ศึกษาค้นคว้าไดโนเสาร์ เพื่อจะไปช่วยไมซี่กลับมา ท้ายสุดแล้วสถานะการณ์จะเป็นยังไง หมู่เขาควรต้องเหน้าจอกับอะไรบ้าง betflix57 ทุกคนจึงควรไปรับดูด้วยตาตัวของเราเอง Jurassic World Dominion จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์